คราแรกก็ฟังไปทางพวกแร๊พในสมัยนั้น แต่ยุคนี้คงเป็นฮิบฮอบอ่ะแหล่ะ
พอเจอตนเองที่แท้จิงทั้งหมดทั้งมวลก็ยังวนเวียนอยู๋กับร็อคไม่ว่าแขนงไหนก็ตาม
ครั้งนี้เจอพวกเค้าเป็นครั้งที่สองด้วยความบังเอิญทั้งสองครั้งเป็นคนชอบดูสไตล์การแต่งตัว
ของเพื่อนชาวต่างประเทศที่ต้องทำหั้ยเราติดตามบล็อคอยู๋เป็นบ่อยๆ ครานี้เจอกันอีกครั้ง
เป็นอะไรที่โดนมากมายทั้งแนวเพลงเมโลดี้ สัดส่วนของเพลง จังหวะ เร้า บวกกับการตัดต่อที่เยี่ยมขั้นเทพ
เหมือนเราได้กลายเป็นนักแสดงที่ต้องสาดกระสุนใส่กันแบบไม่ยั้ง ลายโซโล้กีตาร์กับเสียงร้องช่างสนทนากันได้อย่างไม่หยุด
โว้ๆๆนี่เราตกหลุมรักพวกเค้าอีกแล้ว
เรามาดูข้อมูลที่หนึ่งหามาได้เป็นเกร็ดกันสักนิดดีกว่า
แนวดนตรี-Blues, Hard Rock, Alternative Rock
โปรดิวเซอร์-Jack White
ออกปี-2009
Tracklist:
1. 60 Feet Tall
2. Hang You From Heavens
3. I Cut Like a Buffalo
4. So Far From Your Weapon
5. Treat Me Like Your Mother
6. Rocking Horse
7. New Pony
8. Bone House
9. 3 Birds (instrumental)
10. No Hassle Night
11. Will There Be Enough Water?
กลายเป็นชายสามโบสถ์ไปแล้วสำหรับพ่อ Jack White เขาอาจจะเป็นร็อกสตาร์คนแรกและคนเดียวที่อยู่ในวงร็อกชั้นนำถึงสามวงในเวลาเดียวกัน และยังเป็นสมาชิกคนสำคัญที่สุดของวงเสียด้วย The Dead Weather คือโปรเจ็กล่าสุดของ Jack ต่อจาก White Stripes และ The Raconteurs งานนี้ Jack ยอมถอยหนึ่งก้าวไปนั่งบน drums stool และมอบไมโครโฟนให้หญิงสาวจาก The Kills พร้อมกับเพื่อนเก่าจาก The Raconteurs และมือกีต้าร์/ออร์แกนจาก Queens of the Stone Age ไม่ผิดหรอกครับถ้าคุณจะคาดหวังไว้สูงจาก supergroup ชื่อชั้นระดับนี้ และไม่ว่าคุณจะหวังไว้มากมายแค่ไหน นี่ก็อาจจะเกินที่คุณคาด เพราะ Horehound คืองาน dirty vintage hard blues rock ระดับอ๋อง ที่ถึงพริกถึงขิงสมศักดิ์ศรีพ่อครัวคนเก่ง คุณอาจจะคิดว่า Jack White มันจะบ้าไปแล้วที่ตั้งวงดนตรีเป็นว่าเล่นยังกะตั้งวงไพ่ แต่อย่าลืมว่าพ่อ Jack เขาทำอะไรไม่ค่อยเหมือนใครมาแต่ไหนแล้ว และเรื่องการไปมาหาสู่ตั้งวงเล่นๆกันในวงการ Jazz หรือ Blues นั้นย่อมไม่ใช่เรื่องพิลึกอะไร เราอาจจะไม่คุ้นเคยกับสิ่งนี้ในแวดวงร็อกเท่านั้น อีกประการคือ Jack เป็นคนทำงานรวดเร็วมาก Horehound นี้ก็ใช้เวลาการบันทึกเสียงแค่สามอาทิตย์ จึงไม่มีปัญหาที่เขาจะสลับรางวิ่งรอกในวงดนตรีทั้งสามวง (น่าสังเกตว่า Jack ไม่เคยออกงาน solo เลย)
เรื่องของเรื่องเกิดขึ้นในการตระเวณแสดงของ The Raconteurs เมื่อปีก่อน (2008) โดยมีวง The Kills เป็นวงเปิด สัปดาห์สุดท้ายของการทัวร์ Jack หลอดลมอักเสบและแทบจะไม่มีเสียงร้องเพลง นางเอกของเรื่องคือ Alison Mosshart ที่เข้ามาช่วยร้อง และรายงานว่าปฏิกิริยาทางเคมีบนเวทีระหว่าง Jack และ Alison นั้นจี๊ดจ๊าดเหลือหลาย จนทำให้ Jack ประทับใจพอที่เขาจะชวน Alison มาทำซิงเกิ้ลพิเศษร่วมกันโดยมีคนเล่นเบสคือ Jack Lawrence พ่อแว่นผมทรงอินเดียนแดงจาก Raconteurs และ Dean Fertita เพื่อนเก่าของ Jack จาก Queens Of The Stone Age มาช่วยเล่นกีต้าร์และคีย์บอร์ด Jack กลับไปตีกลอง เครื่องดนตรีที่เขาเคยเล่นในยุค 90’s เมื่ออยู่กับวง Goober & The Peas ก่อนที่โครงการนี้จะลามปามกลายเป็นอัลบั้มและวงเฉพาะกิจที่อาจจะเป็นวง “หลวง” ไปแล้วในตอนนี้ของ Jack
ถึงแม้ Jack White จะร้องนำไม่กี่เพลงและเล่นกลองเป็นหลัก แต่ซาวนด์ของ The Dead Weather ก็เต็มไปด้วยลายเซ็นของ Jack White Sound ตัวเบ้อเริ่มอยู่ดี มันไม่ใช่แบบฝึกหัดทาง classic rock อย่าง Raconteurs แต่นี่คือแนวทางของ White Stripes ที่ดำดิ่งลึกกว่าลงไปที่สี่แยกซาตานของ Robert Johnson และลบล้างสีสันแบบการ์ตูนของคู่ดูโอทิ้งไปโดยสิ้นเชิง บรรยากาศทั้งหมดเต็มไปด้วยความมืดหม่นลึกลับ มันยังมีความดิบและชีวิตชีวาแทบจะปราศจากการแต่งแต้มอย่างที่งาน rock and roll ควรจะเป็น เสียงร้องของ Alison ใน Horehound นั้นห่างไกลจากที่เธอร้องไว้ในอัลบั้มของ The Kills ณ ที่นี้เสียงของเธอถูกบันทึกไว้อย่างดิบแห้งเต็มไปด้วยแรงกดดันและเสียงสะท้อนเหมือนแผ่นเสียงเก่าๆของ Chess และ Sun records ในทศวรรษที่ 50 บางทีเสียงของเธอก็เหมือนกับภาคอิสตรีของ Jack White แต่วินาทีต่อมาเธอก็กรีดร้องจากวิญญาณราวกับกำลังถ่ายทอดหัวใจของ Janis Joplin เมื่อเธอร้องคู่กับ Jack ในเพลงอย่าง I Cut Like A Buffalo หรือ Treat Me Like Your Mother นั้นเสียงของทั้งสองเข้ากันได้ดีเฉกเช่นพรรคร่วมรัฐบาลยามหวานชื่น ขณะที่ Jack ลดโทนเสียงของเขาลงมาจากที่เราคุ้นเคยจนฟังแปลกออกไป Jack Lawrence และ Dean Fertita ทำหน้าที่ห้องเครื่องของวงได้อย่างไร้ที่ติ โดยเฉพาะฝีมือกีต้าร์ของ Fertita ที่ถ้าไม่แน่จริง Jack คงไม่ยอมวางมือมาตีกลอง (อย่างไรก็ตามก็มีบางส่วนของกีต้าร์ที่ได้ยินในอัลบั้มที่เป็นฝีมือของ Jack ร่วมด้วย) เสียงออร์แกนในหลายช่วงชวนให้คิดถึง Jon Lord แห่ง Deep Purple
ที่น่าประหลาดคือ ลีลาการเล่นกลองของ Jack มีอะไรหลายอย่างที่ชวนให้คิดถึงการตีกลองแบบคิกขุๆของ Meg White ใน White Stripes แต่แน่นอนว่า Jack โชว์ลวดลายมากกว่านั้น และคุณแทบจะรู้สึกได้ว่าเขากำลังเมามันแค่ไหนในการย้ายมาฟาดกลองด้วยตัวเองครั้งนี้โดยเฉพาะในเพลงอย่าง No Hassel Night และ Bone House ที่เขาฟาดกลองสดประชันกับดรัมแมชชีน เพลงนี้ยังน่าจะเป็นเพลงที่ Alison กรีดร้องครวญครางและโวยวายได้มันส์ที่สุดในแผ่นอีกด้วย
Horehound (ชื่ออัลบั้มมาจากสารสกัดจากพืชที่นิยมใช้ให้ความหวานในศตวรรษที่ 18) ยังมีเพลงที่สามารถเข้าไปอยู่ในงานของ White Stripes ได้อย่างไร้พิรุธอย่าง 60 Feet Tall, Hang You From Heavens, Rocking Horse นั่นหมายความว่าแฟนเก่าของ White Stripes จะฟังงานนี้ได้อย่างแฮปปี้ จะว่าไปมิตรรักนักเพลงของ Jack White ที่ตามกันมาแต่อ้อนแต่ออกก็น่าจะภูมิใจกับงานชุดนี้ แต่ถ้าคุณไม่เคยฟังงานของ Jack เลย ก็ไม่เลวที่จะลิ้มลองจากชุดนี้ก่อน เพราะเป็นงานที่ครบเครื่องและฟังง่ายที่สุดของเขาชุดหนึ่งครับ ยิ่งถ้าคุณเป็นแฟนของ Led Zeppelin หรือ Cream, Jimi Hendrix ล่ะก็...ได้เลย
ว่ากันว่าถ้าคุณอยากมีชื่อเสียงไม่ว่าจะเป็นวงการใด สิ่งที่คุณต้องมีหรือพยายามจะเป็นให้ได้ก็คือ เป็นคนแรก เป็นคนที่ดีที่สุด และเป็นคนที่แปลกที่สุด สำหรับ Jack White เขาอาจะไม่ได้เป็นอะไรทั้งสามอย่าง แต่ในนามบัตรส่วนตัวเขาเขียนไว้ว่า ‘Accidentist’
ที่มาเลยจาก:http://www.oknation.net/blog/adayinthelife/2009/08/14/entry-1
ปลื้มสุดๆ
